— ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี หลังจากธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
เจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรในไตรมาส 2 ลดลง 28% สู่ระดับ 8.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.76 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งต่ำกว่าระดับ 1.19 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.78 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากธนาคารต้องกันสำรองหนี้สูญจำนวน 428 ล้านดอลลาร์
ส่วนธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 2 อยู่ที่ 2.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.39 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งต่ำกว่าระดับ 3.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.85 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากรายได้ที่อ่อนแอในธุรกิจวาณิชธนกิจ
— ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแตะระดับ 1.000 เทียบยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซน
ณ เวลา 20.15 น. เมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.57% สู่ระดับ 1.000 เทียบยูโร
— สำนักงานของนายมหินทา อเบย์วรรธนะ ประธานรัฐสภาศรีลังกาเปิดเผยว่า นายมหินทาได้รับจดหมายลาออกจากตำแหน่งของนายโคฐาภยะ ราชปักษะ ประธานาธิบดีศรีลังกา และจะมีการประกาศการลาออกของประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันนี้ หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทางนิติบัญญัติ
— นายมาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลีกล่าวว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่พรรค Five Star Movement ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการลงคะแนนไว้วางใจต่อนโยบายรัฐบาลที่มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงเช้านี้
อย่างไรก็ดี นายแซร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี ได้ปฏิเสธคำขอลาออกของนายมาริโอ ดรากี เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดวิกฤติทางการเมืองซึ่งอาจส่งผลกระทบหนักต่อตลาดเงิน
— กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 97,788 ราย โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 90,000 รายเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 7
การแพร่ระบาดดังกล่าวส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของญี่ปุ่นพุ่งทะลุ 10 ล้านราย
— กระทรวงสาธารณสุขอินเดียออกแถลงการณ์ยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษลิงเป็นครั้งแรกที่รัฐเกรละทางใต้ของประเทศ
ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทางมายังรัฐเกรละเมื่อวันที่ 12 ก.ค. และเมื่อพบว่าติดเชื้อฝีดาษลิง รัฐบาลก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มายังรัฐเกรละเพื่อช่วยในการสอบสวนหาสาเหตุของการระบาด
— Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 564,597,230 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,380,224 ราย
— สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 244,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 234,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 230,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน และสูงกว่า 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.8% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 11.3% หลังจากดีดตัวขึ้น 10.9% ในเดือนพ.ค.
— สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ทางการจีนเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565 เวลา 09.00 น. ตามเวลาไทย
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวเพียง 1% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าระดับ 4.8% ในไตรมาส 1 และเป็นการขยายตัวอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจหดตัวลง 6.9% ในไตรมาส 1/2563 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจจีนหดตัวลง 1.5% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังจากที่มีการขยายตัว 1.3% ในไตรมาสแรก
จากนั้นสหรัฐจะรายงานยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ค.จากเฟดนิวยอร์ก และราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนมิ.ย. เวลา 19.30 น.
ต่อด้วยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. เวลา 20.15 น. และปิดท้ายด้วยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.
อ้างอิง อินโฟเควสท์