การนัดหยุดงานของ United Auto Workers (UAW) ต่อผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่กำลังดำเนินการอยู่ บริษัทเช่น General Motors, Ford และ Stellantis ได้ทำให้เกิดข้อถกเถียงทั่วประเทศเกี่ยวกับสิทธิแรงงาน ค่าจ้าง และอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์
การประท้วงหยุดงานครั้งนี้ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่งผลกระทบต่อผู้เล่นรายใหญ่ เช่น Ford, General Motors (GM) และ Stellantis อย่างไรก็ตาม ผลที่ตามมาได้ขยายไปไกลกว่าแค่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ แต่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ตลาดหุ้น และความรู้สึกของนักลงทุน
ในส่วนการวิเคราะห์นี้ เราจะเจาะลึกถึงรายละเอียดที่ซับซ้อนของการประท้วงครั้งนี้และผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ
จากสัญญาจ้างงานสู่ปัญหาที่ซับซ้อนอุตสาหกรรม
การนัดหยุดงานของ UAW ไม่ได้เป็นแค่เพียงข้อพิพาทด้านแรงงาน แต่เป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงต่อผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ การนัดหยุดงานครั้งนี้มีลักษณะเป็นการหยุดงานแบบ “จำกัดและตรงเป้าหมาย” โดยเริ่มต้นหลังจากการสิ้นสุดสัญญาจ้างงาน 4 ปีของพนักงาน ซึ่งมีบริษัท General Motors และ Stellantis Ford พยายามหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักในทันทีด้วยการเจรจา
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ : เกิดความสูญเสียอย่างกระทันหัน
ในส่วนนี้ เราจะเจาะลึกถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากการนัดหยุดงานของ UAW และสำรวจผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นได้นอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ตัวเลขและข้อมูลได้เผยให้เห็นถึงความซับซ้อนทางการเงินที่เกิดจากการประท้วงครั้งนี้
ผลกระทบหลังจากการประท้วง
ในระยะสั้น การประท้วงดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ การหยุดงานประท้วงส่งผลให้ Ford, GM และ Stellantis ต้องหยุดการผลิตในโรงงานต่างๆ ส่งผลให้มีการสูญเสียผลผลิตรวมกันประมาณ 20,000 คันต่อสัปดาห์ เมื่อสายการผลิตถูกระงับ มันจะส่งผลให้สูญเสียรายได้เนื่องจากคำสั่งซื้อที่ผลิตไม่ทันและยอดขายที่ลดลง
สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การเลิกจ้างแรงงานได้ เนื่องจากผู้ผลิตปรับกำลังแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของการผลิตที่ลดลง นอกจากนี้ยังหมายความว่าซัพพลายเออร์หลายราย ตั้งแต่ผู้ผลิตชิ้นส่วนไปจนถึงบริการขนส่ง ต้องเผชิญกับการหยุดชะงักของแหล่งรายได้ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางการเงินทั่วทั้งระบบนิเวศยานยนต์
ผลที่อาจจะตามมา
ผลที่ตามมาที่อาจเกิดขึ้นได้จากการหยุดงานประท้วงนี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจ โดยปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคือผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ (GDP)
อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 3% ของ GDP เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งรวมการผลิตสินค้าและบริการทั้งหมดที่มีบทบาทสำคัญในสถานการณ์นี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ผลิตรถยนต์ในเมืองดีทรอยต์ที่ครองตลาดรถยนต์ในสหรัฐฯ ประมาณ 50 เปอร์เซนต์ ของการผลิตทั้งหมด สิ่งนี้บ่งชี้ว่าผลที่มาจากการประท้วงหยุดงานได้ขยายไปไกลกว่าภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อส่วนสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯเช่นกัน
แม้ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อ GDP อาจดูค่อนข้างเล็กน้อย แต่การประมาณการบางส่วนชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์นี้อาจลดการเติบโตของ GDP ของสหรัฐฯได้ในไตรมาสที่สี่้ถึง 0.2% อย่างไรก็ตาม ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจโดยรวมอาจเผชิญกับความท้าทายที่ยากกว่านี้ หากการนัดหยุดงานยังคงมีอยู่่
เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน การหยุดงานประท้วงที่ยืดเยื้ออาจทำให้ปัญหาเหล่านี้รุนแรงขึ้น และอาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อด้วย ซึ่งจะนำไปสู่ราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อลดลงและอาจลดการใช้จ่ายของผู้บริโภค สิ่งนี้อาจส่งผลกระทบไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากยานยนต์ที่ท้าทายความพยายามของธนาคารกลางสหรัฐในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจของการนัดหยุดงานยังเกี่ยวข้องกับความต้องการของจำนวนคนงานอีกด้วย UAW กำลังมองหาค่าจ้างที่สูงขึ้น รวมถึงความมั่นคงในการทำงาน และการลงทุนในการผลิตที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ แม้ว่าการตอบสนองความต้องการเหล่านี้อาจช่วยความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจของคนงาน แต่ก็อาจนำไปสู่ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ด้วย
การประมาณบางแห่งระบุว่าการเพิ่มขึ้น 1% ของค่าแรงสามารถทำให้ราคายานพาหนะเพิ่มขึ้น 0.2% ได้ สิ่งนี้อาจส่งผลกระทบไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมยานยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทางเลือกของผู้บริโภคและพฤติกรรมการใช้จ่าย ซึ่งอาจส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ลดลงอีก
หุ้นอยู่ในภาวะปั่นป่วน : กระทบความเชื่อมั่นของตลาด
ผลกระทบจากการประท้วงของ UAW ส่งผลต่อราคาหุ้นให้ต่ำกว่ามูลค่าตลาดทันที มันบ่งบอกถึงสภาพแวดล้อมที่มีความวิตกกังวลของนักลงทุน ความผันผวนของอุตสาหกรรม และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
ความรู้สึกของนักลงทุน
ราคาหุ้นมักสะท้อนถึงความรู้สึกของนักลงทุนและความเชื่อมั่นของตลาด หลังจากการนัดหยุดงาน หุ้นของ Ford, GM และ Stellantis ปรับตัวลดลงในช่วงแรกประมาณ 5-7% นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยอยู่หลายประการ:
รายได้ที่ไม่แน่นอน
การประท้วงดังกล่าวทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อรายได้ในอนาคตของผู้ผลิตรถยนต์ ตัวอย่างเช่น Ford ได้ประกาศว่าผลกระทบของการประท้วงดังกล่าวทำให้รายได้ของบริษัทลดลงประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สามของปี
นักลงทุนให้ความสำคัญกับความสามารถในการคาดการณ์ และเมื่อการนัดหยุดงานขัดขวางการผลิตและการขาย การคาดการณ์ด้านการเงินอย่างแม่นยำจึงกลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย ความไม่แน่นอนนี้มักส่งผลให้ราคาหุ้นลดลง
ความเสี่ยงด้าน Supply Chain
ผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจากการประท้วงได้ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานและเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์ของพวกเขา การหยุดชะงักในการส่งมอบชิ้นส่วนรถยนต์ให้ตรงเวลาอาจทำให้การผลิตมีปัญหา ส่งผลให้รายได้ลดลง ความซับซ้อนที่เพิ่มเข้ามานี้ยังเป็นอุปสรรคต่อนักลงทุนที่กลัวความท้าทายด้านลอจิสติกส์อีกด้วย
ระยะเวลาของการประท้วง
ยิ่งการประท้วงหยุดงานนานขึ้นเท่าใด ผลกระทบต่อราคาหุ้นก็จะยิ่งเด่นชัดมากขึ้นเท่านั้น การประท้วงที่ยืดเยื้ออาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางการเงินเพิ่มขึ้นไปอีก และส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงมากขึ้น
ความผันผวนในอุตสาหกรรม
การประท้วงของ UAW กำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับอุตสาหกรรม ราคาหุ้นของ Ford, GM และ Stellantis ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งรวมถึงความคืบหน้าของการนัดหยุดงาน
การเจรจาหรือข่าวแต่ละครั้งเกี่ยวกับระยะเวลาของการประท้วงทำให้เกิดความผันผวน ความผันผวนนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการประท้วงหยุดงานในอุตสาหกรรม และการเชื่อมโยงโดยตรงกับผลการดำเนินงานของหุ้น
ผลกระทบสำหรับหุ้นซัพพลายเออร์ EV
ปีนี้เป็นปีที่มีผลประกอบการณ์ออกมาผสมผสานกันระหว่างหุ้นซัพพลายเออร์ EV พวกเขาสามารถทำกำไรได้เล็กน้อย 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ตัวเลขนี้ดูน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการเพิ่มขึ้น 17% ที่แข็งแกร่งของ S&P 500 ในช่วงเวลาเดียวกัน สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากความท้าทายในปี 2022 เมื่อหุ้นเหล่านี้ต้องทนต่อการลดลงถึง 21%
แม้จะมีขึ้นและลง แต่สภาพแวดล้อมระดับมหภาคยังค่อนข้างสนับสนุนต่อเทคโนโลยีและหุ้นแห่งอนาคต โดยอัตราเงินเฟ้อที่เย็นลงและธนาคารกลางสหรัฐได้ผ่อนคลายแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
การหยุดงานประท้วง UAW : ความพ่ายแพ้ของอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม การนัดหยุดงานของ UAW เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้สร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ การหยุดงานประท้วงครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่พนักงานของบริษัทรถยนต์รายใหญ่ในดีทรอยต์ทั้งสามบริษัท ได้แก่ Ford, General Motors และ Stellantis ได้หยุดงานพร้อมกัน ผลที่ตามมาคือการหยุดชะงักในการผลิตยานยนต์ ซึ่งส่งผลกระทบไม่เพียงแต่บริษัทที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระบบนิเวศในวงกว้างด้วย
สงครามราคา EV
นอกเหนือจากการประท้วงดังกล่าวแล้ว การลดราคาในพื้นที่ EV โดย Tesla ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม ยังจุดชนวนสงครามราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด EV ของจีน ราคาในระดับนี้อาจส่งผลกระทบต่อสต็อกของซัพพลายเออร์ เนื่องจากราคาขายที่ลดลงอาจจำเป็นต้องมีการจัดการต้นทุนส่วนประกอบที่เข้มงวดมากขึ้นโดยผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม หรือ (OEM)
แนวโน้มระยะยาวสำหรับหุ้นซัพพลายเออร์ EV
แม้จะมีความท้าทายระยะสั้น แต่แนวโน้มระยะยาวสำหรับหุ้นซัพพลายเออร์ EV ยังคงมีแนวโน้มที่ดี การวิจัยของ Counterpoint คาดการณ์ยอดขาย EV ทั่วโลกจะสูงถึง 17 ล้านคันในปี 2023
นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าตลาดรถยนต์จะเปลี่ยนไปใช้ EV เป็นส่วนใหญ่ในทศวรรษต่อๆ ไป ซึ่งจะทำให้มีช่องทางสำหรับการขยายซัพพลายเออร์ EV อย่างมาก
การตอบสนองของ Tesla ต่อการประท้วง
Tesla ผู้นำอุตสาหกรรม EV ไม่ได้รับการยกเว้นจากอิทธิพลของการนัดหยุดงาน UAW แม้ว่านักวิเคราะห์จะคาดการณ์ว่า Tesla ซึ่งมีพนักงานที่ไม่ได้มาจากสหภาพแรงงาน น่าจะได้รับประโยชน์จากปัญหาด้านแรงงานของผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ แต่หุ้นของบริษัทกลับเผชิญกับการลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ โดยลดลงถึง 3.8% สิ่งนี้เกิดขึ้นแม้จะมีความสามารถในการผลิตและมีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดก็ตาม
สำรวจข้อมูล : ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ
เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้ดีขึ้น เรามาเจาะลึกตัวเลขกัน
ผลกระทบของ GDP
หากยืดเยื้อการประท้วงของ UAW อาจส่งผลให้การเติบโตของ GDP ของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่ลดลง 0.2% เศรษฐกิจซึ่งกำลังต่อสู้กับแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่แล้ว จะพบว่าการรักษาเสถียรภาพหากเผชิญกับความพ่ายแพ้ดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย
หุ้น
ณ วันที่ 25 กันยายน Ford, GM และ Stellantis เผชิญกับราคาหุ้นที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่สบายใจทางการเงินที่เกิดจากการประท้วงหยุดงาน ราคาหุ้นของ Ford (F) ลดลง 5.2%, GM’s (GM) 4.8% และ Stellantis (STLA) ลดลง 6.1%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนสิงหาคม เน้นย้ำถึงความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่มีอยู่ และการหยุดงานประท้วงที่ขยายออกไปอาจทำให้แรงกดดันเหล่านี้รุนแรงขึ้นอีก
ความซับซ้อนของ Supply Chain
ห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนของอุตสาหกรรมยานยนต์ในสหรัฐฯ มีความเสี่ยงสูงต่อการหยุดชะงัก และผลกระทบจากการหยุดงานประท้วงอาจส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ นอกเหนือจากการผลิตยานยนต์
เมื่อรวมตัวเลขเหล่านี้เข้าด้วยกัน เราจะมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับผลที่ตามมาทางเศรษฐกิจและการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากการนัดหยุดงานของ UAW
เส้นทางในอนาคต
การหยุดงานประท้วงของ UAW ซึ่งครอบคลุมทั้ง Ford, GM และ Stellantis ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ตกอยู่ในภาวะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้ว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในทันทีจะไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็ไม่สามารถประเมินความเป็นไปได้ที่จะเกิดการลุกลามและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานได้
อุตสาหกรรม นักลงทุน ผู้กำหนดนโยบาย และผู้บริโภคต่างติดตามอย่างใกล้ชิดว่าการเจรจาคลี่คลายอย่างไร และการหยุดงานประท้วงส่งผลต่ออนาคตของการผลิตยานยนต์ในสหรัฐอเมริกาและที่อื่นๆ การหยุดงานประท้วงครั้งนี้ตอกย้ำถึงความสมดุลอันละเอียดอ่อนระหว่างแรงงานและฝ่ายบริหาร และการแก้ปัญหาดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดอนาคตของการผลิตยานยนต์
| เกี่ยวกับ Doo Prime
เครื่องมือการซื้อขายของเรา
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น
Doo Prime เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับนานาชาติภายใต้บริษัท Doo Group ที่ให้นักลงทุนมืออาชีพได้ซื้อขายหลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส ฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น ปัจจุบัน Doo Prime มอบประสบการณ์การซื้อขายที่ดีที่สุดให้ลูกค้ามากกว่า 90,000 คน โดยมีอัตราการซื้อขายเฉลี่ย 51,223 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน
Doo Prime มีใบอนุญาตจากเซเชลส์ เมอริเชียส วานูอาตู โดยมีสำนักงานในดัลลัส ซิดนีย์ สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และอีกหลายสำนักงานทั่วโลก
ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่สมบูรณ์แบบ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และทีมที่มีประสบการณ์ Doo Prime ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ให้ราคาการซื้อขายที่ดี รวมไปถึงวิธีการฝาก-ถอนที่รับรอง 22 สกุลเงิน อีกทั้ง Doo Prime ยังให้การบริการลูกค้าในหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, TradingView, และ InTrade ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ
วิสัยทัศน์และภารกิจของ Doo Prime คือการเป็นองค์กรเทคโนโลยีการเงินในฐานะโบรกเกอร์ด้านการลงทุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลก
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Doo Prime โปรดติดต่อ
โทรศัพท์
ยุโรป : +44 11 3733 5199
เอเชีย : +852 3704 4241
เอเชีย – สิงคโปร์: +65 6011 1415
เอเชีย – จีน : +86 400 8427 539
อีเมล
ฝ่ายบริการด้านเทคนิค [email protected]
ฝ่ายขาย [email protected]
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement)
บทความนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต (Forward-looking Statement) ปรากฏอยู่ เช่นคำว่า “คาดการณ์ว่า” “เชื่อว่า” “ต่อไป” “สามารถ” “ประมาณ” “คาดว่า” “หวังว่า” “ตั้งใจว่า” “อาจจะ” “วางแผนว่า” “มีแนวโน้มว่า” “คาดเดาว่า” “ควรจะ” หรือ “จะ” หรือข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในข้อความที่ไม่มีคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่มิได้แสดงว่าข้อความเหล่านี้ไม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต ข้อความเกี่ยวกับความคาดหวัง ความเชื่อ แผนการ จุดประสงค์ ข้อสันนิษฐาน เหตุการณ์ในอนาคต และการกระทำในอนาคตของ Doo Prime จะเป็นข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต
Doo Prime ใช้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตอ้างอิงมาจากข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผน Doo Prime เชื่อว่าความคาดหวังในปัจจุบัน ข้อสันนิษฐาน การคาดคะเน และการวางแผนเหล่านั้นสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการคาดหมายและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่สามารถรับรู้และไม่สามารถรับรู้ได้ แต่หลายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของ Doo Prime ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ และการกระทำที่แตกต่างจากที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้แสดงออกหรือแสดงนัยไว้
Doo Prime ไม่รับรองหรือรับประกันความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง หรือความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านั้น Doo Prime ไม่มีหน้าที่ส่งข้อมูลหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้
การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง
การซื้อขายเครื่องมือทางการเงินมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงิน เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่นักลงทุนในระยะเวลาที่รวดเร็วได้ ผลการลงทุนในอดีตไม่สามารถชี้วัดความสำเร็จหรือผลกำไรในการลงทุนได้ การลงทุนด้านนี้เกี่ยวข้องกับมาร์จินและเลเวอเรจ ซึ่งการลงทุนจำนวนเล็กน้อยอาจส่งผลประทบมากได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขาย
โปรดอ่านและทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายเครื่องมือทางการเงินอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมกับ Doo Prime หากมีข้อสงสัยในการลงทุน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ข้อมูลข้อตกลงการทำธุรกรรมและการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง
ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบตามกฎหมาย
ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปแก่สาธารณะเท่านั้น ข้อมูลไม่ควรถูกตีความเป็นคำปรึกษาทางด้านการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือคำเชิญชวนเพื่อซื้อหรือขายเครื่องมือทางการเงินใด ๆ ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จัดทำขึ้นโดยโดยไม่มีการอ้างอิงหรือพิจารณาถึงจุดประสงค์การลงทุนหรือสถานะทางการเงินของผู้ใดผู้หนึ่งแต่อย่างใด การอ้างอิงถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือทางการเงินในอดีต เครื่องมือทางการดัชนี หรือผลิตภัณฑ์การลงทุนไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลลัพธ์ในอนาคต Doo Prime ไม่รับรองและรับประกันข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียหรือความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมอันเป็นผลมาจากความไม่ถูกต้องหรือความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล Doo Prime ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เป็นผลมาจากความเสี่ยงการซื้อขาย กำไร หรือขาดทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนส่วนบุคคล